ก่อนหน้านี้ ผมเคยคิดว่าอาการที่ปวดเมื่อยที่เป็นอยู่ เป็นเพราะเราไปออกทริปบ่อย เดินทางบ่อย แบกกระเป๋ากล้องหนัก ๆ พอได้พักก็จะดีขึ้น แต่เหมือนไม่หายขาด พอกลับไปออกทริปอีกก็เป็นอีก แถมอาการมาเร็วขึ้นด้วยจนคิดว่า สงสัยต่อไปจะต้องเที่ยวสบาย ๆ บ้างแล้ว แต่ผมได้มารู้ว่าจริง ๆ สาเหตุที่ทำให้อาการปวดเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นมันมาจากสาเหตุอื่นด้วย เพราะได้ลองมาที่นี่…“ธรรมานามัย คลินิก”
ธรรมานามัย คลินิก..คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์
เป็นคลินิกเน้นไปที่การดูแล ส่งเสริมและฟื้นฟู ผู้ที่มาเข้ารับบริการด้วยการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เป็นการบำบัดด้วยศาสตร์ของหัตถเวชกรรมแผนไทย ในกลุ่มอาการของพวกปวดกล้ามเนื้อทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง หรือแม้กระทั่งการปวดหัวไมเกรน ปวดหัวจากความเครียด จนไปถึงการปวดล้าจากการทำงาน (Office syndrome)

ตัวคลินิก มีขนาดไม่ใหญ่โตเกินไป ให้ความสงบร่มรื่น
ถ้าจะให้คำจำกัดความว่าต่างจากร้านนวด ข้างนอกที่เราเห็นกันทั่วไปอย่างไร….ก็ไม่ยากเลย เพราะแตกต่างกันมาก เรียกว่าคนละอย่างกันก็ได้
ที่นี่เป็นคลินิกที่ให้การวินิจฉัย และทำการบำบัดอาการด้วยบุคลากรที่เป็นแพทย์จริง ๆ และจะทำการนวดบำบัดอาการโดยศาสตร์การแพทย์หลักสูตรราชสำนัก คือจะใช้แต่มือแต่เพียงอย่างเดียว ต่างจากที่อื่นที่ใช้อวัยวะอื่นช่วยในการนวด
นวดบำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อ (Therapeutic Massage)
เป็นกลุ่มอาการหลัก ของผู้ที่มาใช้บริการที่นี่ จะมีขั้นตอนการตรวจสอบและวินิจฉัยจากคุณหมอ ด้วยการประเมินอาการขั้นต้น ว่าอาการที่เราเป็นอยู่ อยู่ในกลุ่มอาการขั้นไหน ซึ่งบางคนที่มาใช้บริการ ก็คิดว่าตัวเองมีอาการคล้ายกับอาการหลาย ๆ อย่างที่เคยได้ยินมา แต่สุดท้ายหลังจากวินิจฉัยแล้ว กลับกลายเป็นอีกอาการแทน บางทีเราอาจจะเป็นไม่รู้ตัว ตัวอย่างคือผมเองในตอนแรกคิดว่ามีอาการปวดเมื่อยล้าแบบเฉียบพลันจากการออกทริปและแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพที่หนัก แต่สุดท้ายผลสรุปคือเป็น Office Syndrome ในขั้นแรก และอาการกำลังจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งพอได้รับการวินิจฉัยแล้ว คุณหมอจะพาไปที่ห้องและเปลี่ยนชุดที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อทำการนวดบำบัด
คุณหมอจะทำการนวดบำบัดไล่ไปตามอาการที่วินิจฉัยข้างต้น โดยไล่ไปเป็นอวัยวะ เริ่มตั้งแต่ด้านบนลงไปถึงส่วนด้านล่าง
ต้องยอมรับว่าแม้จะใช้แค่มือ แต่แรงกดของคุณหมอ แรงได้ใจจริง ๆ กดจุดได้ลึกมาก จนบางทีเกือบจะทนไม่ไหวเหมือนกัน แต่คุณหมอจะถามทุกทีที่เราออกอาการ ซึ่งจะมากหรือน้อยอยู่ที่ความตึงของเส้นที่คุณหมอจับได้ อย่างของผมยอมรับว่าตึงมาก คุณหมอออกแรงกดซะเหงื่อตกเลย เพราะไม่เคยได้มีการนวดคลายเส้นมาก่อนเลย กล้ามเนื้อมีความตึงเครียดมาก
คุณหมอเคยบอกว่า ความตึงของกล้ามเนื้อมันเกิดจากการใช้งานและสะสมอาการมาตั้งแต่แรก ถ้าไม่ออกกำลังหรือให้กล้ามเนื้อมีความคลายตัว มันสะสมอาการโดยที่เราไม่รู้ตัว พอจะมารักษา ก็ต้องใช้เวลา ซึ่งจะมากหรือน้อย ก็ต้องอยู่ที่อาการที่เราเป็น
หลังจากการนวดบำบัดครบขั้นตอนแล้ว จะจบที่การนวดประคบร้อนด้วยสมุนไพร เพื่อลดอาการระบมจากการนวด ซึ่งเราสามารถหาลูกประคบแบบนี้ไว้ใช้ที่บ้านก็ได้ สามารถเอาไว้ใช้ประคบเองเพื่อลดอาการปวดกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากการทำงานได้ ในกรณีของคนที่ปวดเรื้อรัง ก็จะช่วยได้พอสมควร
และหลังจากขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็จะมาถึงคำแนะนำของคุณหมอ เป็นการสอนท่าบริหารกล้ามเนื้ออย่างง่าย ๆ สามารถทำเองได้ เป็นลักษณะของท่าฤาษีดัดตน ซึ่งจากการที่ผมได้มานวดหลายครั้ง ก็จะได้ท่าไปเพิ่มครั้งละ 1-2 ท่าตลอด เป็นท่าที่ทำได้แม้เราจะอยู่ในที่ทำงาน
นวดสร้างเสริมสุขภาพ (Relax Massage)
สำหรับที่นี่นอกจากการนวดบำบัดอาการปวดกล้ามเนื้อ ที่นี่ก็มีบริการนวดสร้างเสริมสุขภาพอีกด้วย เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อทำงานได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและ ช่วยผ่อนคลายความเครียด

ห้องสำหรับการนวดสร้างเสริมสุขภาพ มีอุปกรณ์อย่างครบครัน มีห้องอบไอน้ำสมุนไพรพร้อมให้บริการอีกด้วย
สำหรับการนวดสร้างเสริมสุขภาพของที่นี่ มีห้องให้บริการแค่ห้องเดียว เพราะที่นี่เน้นการนวดบำบัดมากกว่า แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ที่ติดตามมาใช้บริการนวดบำบัด แล้วไม่อยากต้องนั่งรอ ก็มาใช้บริการนวดผ่อนคลายที่นี่ได้ แต่อาจจะต้องเช็คเวลากับทางคลินิกก่อน เพราะอาจจะมีคิวอยู่ก่อนก็ได้
และหลังจากการนวด ก่อนกลับจะมีเครื่องดื่มร้อนและผลไม้ให้บริการ อย่างคราวนี้เป็นกล้วยฝาดราดด้วยน้ำผึ้ง (อร่อยมาก อยากได้อีกจานเลย) ถือเป็นการ relax อีกขั้นก่อนจบขั้นตอนการให้บริการ
บทสรุป
ต้องยอมรับก่อนเลยว่า ตัวเองไม่ค่อยเชื่อเรื่องการนวดสักเท่าไหร่ นวดแล้วก็เหมือนกับว่ามันก็หายเป็นพัก ๆ มานวดให้หายปวดแล้วก็กลับไป แล้วสักพักอาการกลับมาปวดเหมือนเดิม แต่พอได้มาที่นี่ ลองมาให้คุณหมอได้ตรวจวินิจฉัย มันทำให้รู้ว่าอาการที่เกิดกับเรา มันเกิดจากตรงไหน เกิดจากอะไร มันทำให้เรากลับออกไปด้วยความมั่นใจว่าอาการที่เคยเป็นจะดีขึ้น แล้วมันก็ดีขึ้นจริง ๆ เพราะหลังจากเราได้รับการบำบัด แล้วหลังจากนั้นก็รักษาต่อเนื่องด้วยท่ากายภาพที่คุณหมอสอนให้ มันทำให้อาการดีขึ้น ปวดล้ายากขึ้น
ขอเอาบทสนทนาระหว่างผมกับหมอที่มาให้ได้อ่านกันสักนิดครับ
“ผม : หมอครับ ท่าแบบไหนที่ทำแล้วมันจะอาการกำเริบได้ง่ายครับ คือไม่อยากกลับไปปวดเหมือนเก่าแล้ว
หมอ : ธรรมดาแล้วกิจวัตรประจำวันทำอะไรบ้างหล่ะ ที่อยู่ท่าเดียวนาน ๆ ?
ผม : ก็ขับรถขาละ 1-2 ชม. แล้วก็นั่งหน้าคอมพ์ ทำงานนี่แหล่ะครับ
หมอ : นี่แหล่ะที่ทำให้อาการปวดมันกลับมา
ผม : แค่นั่งเฉย ๆ นี่นะครับ
หมอ : ใช่ เพราะการนั่งเฉย ๆ นี่แหล่ะ ทำให้กล้ามเนื้อได้รับความเครียดสะสม ทำให้ปวดได้ง่าย”
เราเลยต้องมีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อระหว่างการทำงานไปด้วย นี่เป็นต้นเหตุของการเกิดอาการ Office syndrome ที่หลาย ๆ คนเป็นกัน
ธรรมานามัย คลินิก – Dhammanamai Clinic
เลขที่ 1 ซอยพหลโยธิน 3 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
เปิดทำการทุกวัน 10:00 – 24:00 (Last booking 23.00 น.)
เบอร์โทร : 095-516-9717, 02-040-6400
Website : Official Website
Facebook Fanpage : Dhammanamaiclinic
แผนที่ : https://goo.gl/maps/cM4QPqCbazP2
ข้อมูลเพิ่มเติม : ธรรมานามัยคลีนิก อยู่ที่ซอย พหลโยธิน 3 จาก BTS สนามเป้า เดินทะลุซอยก็ถึงแล้ว แต่สำหรับใครที่เอารถมา ก็สามารถจอดรถได้ที่ Abloom Exclusive Serviced Apartments ได้ครับ